วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

กลไก เครื่องผลิตเงินอัตโนมัติ....



ดัดแปลง มาจาก EARN Concept ของ คุณ เทพ รุ่งธนาภิรมย์





















(Click ที่ภาพ เพื่อดู ภาพขนาดปกติ)

อ่านรายละเอียดได้ใน หนังสือ "คัมภีร์หุ้น ห่านทองคำ #5 : เจาะลึกตลาดหุ้น"  เขียนโดย เทพ รุ่งธนาภิรมย์

( ผมไม่ได้ค่า โฆษณาหนังสือ น่ะนี้ เพียงแต่อ่านแล้ว รู้สึกว่าชอบ.... รู้สึกว่าใช่ ก็เลยมาบอกต่อ @^____^@ )

Candle Stick Modified #4 : สร้าง สัญลักษณ์

สร้าง สัญลักษณ์  ในรูปแบบ Text แทน รูปแท่งเทียนแต่ละแบบ















จากภาพ จะมี แท่งเทียนที่เป็นไปได้ทั้งหมด 12 รูปแบบ เพื่อความสะดวกในการ นำไปใช้ในโปรแกรมที่เป็น Command Line จึงตั้งชื่อ มันดังนี้....  (ตั้งชื่อเอง ใช้เอง... บางอันก็ใช้ชื่อที่นิยมกันอยู่แล้ว เช่น Dragonfly Doji, GraveStone Doji  )   
(เรียงลำดับจาก แท่งซ้ายสุด ไป หาขวาสุด)

12 Bull [H=C>O=L] 
11 Bull [H=C>O]>L
10 Bull H>[C>O=L]
09 Bull H>[C>O]>L

08 Dragonfly Doji
07 Doji H>[C=O]>L
06 Same Price Doji
05 GraveStone Doji

04 Bear H>[O>C]>L
03 Bear [H=O>C]>L
02 Bear H>[O>C=L]
01 Bear [H=O>C=L]


ตัวอย่าง การนำไปใช้งาน....











วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

ใน Fractal มี Fractal ใน Elliott Wave มี .....

ภาพจากโปรแกรม Fraqtive บน UBunTu
ใน Fractal มี อะไร.... อยากรู้  Zoom เข้าไปดู
 





ภาพจากโปรแกรม Fraqtive บน UBunTu
  



 ใน Fractal มี Fractal





 















ภาพจาก WikiPedia.com
และใน Elliott Wave ก็มี Elliott Wave












Elliott Wave คือ อะไร ฟ่ะ....
 

         - Elliott Wave ----> ขึ้น 5 Wave ลง 3 Wave .....  (ทำไมไม่ขึ้น  7 Wave ลง 5 Wave หรือ ทำไมไม่ขึ้น  9 Wave ลง 7 Wave) ตอบอย่างมั่นใจได้ว่า  ไม่รู้วุ้ย....  :P (ใครรู้ ช่วยบอกผมด้วย....)















        - หนังสือ ฟรีด้อม เทรดเดอร์ บทที่ 47 เรื่อง นับ Wave ยังไง....  คุณสงสัยไหม !!! (มั่วรึเปล่า)  (เขียนโดย ภาววิทย์ กลิ่นประทุม)  อธิบายไว้ อ่านง่าย (ยอมที่จะรับมา) เข้าใจ ได้ง่าย.... 
              Wave 1 : เศรษฐกิจยังแย่ ผู้คนยังไม่มั่นใจ  ราคาขึ้นไป แบบกล้าๆ กลัวๆ
              Wave 2 : เพราะ ผู้คนยังไม่ มั่นใจ จึงเกิดการเทขายอย่างแรง
              Wave 3 : เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว.... ราคาหุ้นขึ้นแบบมี พื้นฐานรองรับ 
              Wave 4 : ราคาหุ้น ในตลาดขึ้นมามาก  ผู้คนส่วนหนึ่งเริ่มไม่มั่นใจ เกิดการเทขาย แต่ผู้คนอีกส่วนยังเชื่อมั่นว่า ตลาดจะขึ้นไปต่อ ตลาดเคลื่อนไหวในลักษณะ Side Way

              Wave 5 : ราคาหุ้นขึ้นไปเกิน ปัจจัยพื้นฐาน เข้าสู่ ภาวะ ฟองสบู่....

              Wave A : ตลาด Crash  ราคาหุ้นจะร่วงอย่างแรง
              Wave B : นักเก็งกำไร & นักลงทุน บางส่วน (ที่คิดว่า ราคาหุ้นจะไปต่อ) จะเข้ามาซื้อหุ้น
              Wave C : ตลาด Crash อย่างแรง ----->  นักเก็งกำไร ฆ่าตัวตาย  หรือ ยอมขายในราคาต่ำๆๆๆ

วนเวียน กลับเข้าสู่   Wave 1 ใหม่

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้อมูล ราคาหุ้นไทย ย้อนหลัง (ดึงมาจาก www.SetTrade.com)

ข้อมูล ราคาหุ้นไทย ย้อนหลัง ดึงมาจาก www.SetTrade.com จัดเก็บไว้ในรูปแบบ Text File (CSV)  Format
ข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 2554-05-06  จำนวนหุ้น 522 ตัว      Download ได้ที่  http://ubuntuone.com/p/roD/
(คำอธิบาย ความหมาย แต่ละ Field อยู่ใน File : ReadMe.html ) 


เอาไปใช้ทำไร ?
     - นำไปใช้สำหรับการทำ Technical Analysis
     - ถ้ายังไม่มี โปรแกรม สำหรับทำ Technical Analysis  -----> แนะนำ Open Source Software ชื่อ qtstalker ทำงานได้ บน Linux (เช่น UBunTu)   ครับ....ใช้ได้ ฟรีไม่เสียตังค์ ครับ.... และที่ยิ่งใหญ่กว่าคำว่า ฟรีไม่เสียตังค์ คือ ฟรีด้อม.... หรือ อิสระภาพในการใช้ แก้ไขดัดแปลง.... ครับ (ได้ Source Code มาด้วย)
           - Web Site ของ qtstalker : http://qtstalker.sourceforge.net/

ป.ล ทดลองใช้ Open Soure Software ดู แล้วจะรู้สึกได้เองว่า ชีวิตที่ไม่ต้องพึ่งพิง Software เถื่อน, ไม่ต้องพึ่งพิง Cracked Software มันดียังไง.... Freedom มีจริง....   @^____^@

ป.ล (Again) โปรแกรม qtstalker สามารถทำ Portfolio ของเราได้ด้วยน่ะ.... (ใส่ ชื่อหุ้น, ราคาต้นทุนที่เราซื้อ, จำนวนหุ้นที่เรามี)  แล้วโปรแกรม มันจะไปคำนวน กำไร/ขาดทุน จาก ข้อมูลราคาล่าสุด  <---- ข้อดี คือ เราสามารถแก้ไขปรับเปลี่ยน ราคาต้นทุนที่เราซื้อ ได้

รวมเรื่องฮาๆ.... Copy คนอื่นมา....

เด็กมีปัญหา 

     พี่ๆๆ หนูเป็นเด็กมีปัญหา พ่อแม่แยกทางกัน.... แม่ไปตลาด พ่อไปเซ่เว่น !!!!     (ฮา อีก)

 

พจนานุกรม ศัพท์ คอมพิวเตอร์ (คลายเครียด)
     บริษัท คณิตกร (Computer) จิ๋วระทวย (Microsoft) สาขาประเทศไทย จำกัด
     เปิดตัว ละมุนภัณฑ์ (Software) รุ่นล่าสุด
     พหุบัญชรทิวทัศน์ (Multi Windows)
     ซึ่งละมุนภัณฑ์ตัวนี้ลักษณะเป็นแบบ สรรค์ใน (Build in)
     รองรับการทำงานแบบ ยืนเอกา (Stand Alone)
     รองรับ กระด้างภัณฑ์ (Hardware) รุ่นใหม่
     มีความสามารถในการประมวลผลแบบ พหุภาระ (Multi Tasking)
     ด้วยชุดคำสั่งพื้นฐาน! ปฐมพิศ (Visual Basic)
     ทั้งนี้ไม่รองรับละมุนภัณฑ์ตัวเก่าจาก IBM อย่าง พหุอุบลจารึก (Lotus Notes)
     แต่รองรับการเล่นเกมรุ่นใหม่ ๆ ได้ดี
     เพราะ มีชุดคำสั่งการทำงานที่รองรับ แท่งหฤหรรษ์ (Joy Stick) ที่หลากหลาย
     และ ยังมีคำสั่งพิเศษบน แท่งภาระ (Task Bar)
     ให้โอนถ่ายเข้า จุดอิทธิฤทธิ์ (Power Point) ได้ค่อนข้างสมบูรณ์
     เพื่อการนำเสนองานได้ในทันที.     (อ่านจบมึนตึบ)

 




 

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2554

ข้อคิด สะกิดใจ... (นักเล่นหุ้น) #1


ซื้อหุ้น & ขายหุ้น
    - เข้าซื้อหุ้น  เมื่อเห็นว่า หุ้นจะขึ้นแล้ว.... ไม่ใช่เห็นว่าลงมาเยอะแล้วถูก  หรือขึ้นมาเยอะแล้วค่อยอยากเข้าตาม ชาวเขา ไปขึ้นดอย....
    - ขาย
หุ้นออก เมื่อเห็นว่า มันไม่ขึ้นต่อ และ กำลังจะลงแล้ว.... ไม่ใช่เห็นว่าขึ้นมาเยอะแล้วน่าขาย.... 
(Face Book : Pawawit Stock Comment  Post โดย Pragasit Thitaram )
ความรู้ & ปัญญา
      - ความรู้ ทำให้เรารู้สึกมีอำนาจ แต่ ปัญญา มีไว้ฆ่ากิเลส ความรู้ มีแล้วมักสร้าง อัตตา และ มานะความถือตัวถือตน ปัญญา มักจะว่องไวอ่อนน้อมถ่อมตน....
(Face Book  @ Post โดย  Chandej Puangchin )
  
แกร่งขึ้น....
        - อะไร ที่มันไม่ได้ ทำให้ คุณตาย มันจะทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น    (คุณ William Heinecke เจ้าของ Minor Group)
 
เลือกลงทุน....
        - จงอย่าลงทุนใน บริษัทที่ ผู้บริหาร ไม่ซื่อสัตย์ ไม่ว่า ตัวเลข ต่างๆ มันจะดู สวยงาม เพียงใดก็ตาม.... (รายการ Money Talk)
 
        - ตลาดหุ้น เป็นเสมือน กระจกเงา นักลงทุนมาส่องก็จะเห็นเป็นแหล่งลงทุนชั้นเยี่ยม.... นักพนันมาส่อง ก็เห็นเป็นบ่อนพนันชั้นยอด .... 
 

 
 

Candle Stick Modified #3 : ปฐมบท Candle Stick

เมื่อแรกเดินผ่าน....
ความรู้สึกครั้งแรกๆ ที่ได้ยิน เรื่อง Technical Analyst, Candle Stick Graph.... นึกไปถึง คนใบ้หวย ที่สนามหลวง.... ที่พยายาม.... หาความสัมพันธ์ ของ ตัวเลข ที่ออกมาในแต่ละงวด..... ซึ่งในทางคณิตศาสตร์ ถ้า การออกรางวัลล็อตตารี่ มันไม่ถูก Lock.... ตัวเลขที่ออกมาแต่ละ งวด มันไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกัน.... นั้น คือ มันไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน .... (แม้เด็ดดอกไม้ จะสะเทือนทั้งดวงดาว ก็เหอะ...)


( จะว่าไปแล้ว .... เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมา มันเป็นผลมาจาก เหตุ & ปัจจัย ที่ส่งผลสืบเนื่อง.... ต่อๆ กันมาๆ ไอ้ครั้นจะบอกว่า เลขล็อตตารี ที่ออกมาใน งวดนี้ ไม่มีเกี่ยวข้องกับ ผลของเลขล็อตตารี ที่ออกมาในงวดที่แล้ว มันก็คงไม่ถูกทั้งหมด  สรุปเป็นว่า ไอ้ความเกี่ยวข้องกันนั้น มันไม่มีนัยยะ มากพอที่จะบอกว่า มันเกี่ยวข้องกัน  สรุปว่า มันไม่เกียวข้องกัน..... )



เริ่มหันมามอง....
แต่ เมื่อเริ่มศึกษา.... เริ่มเห็น "ความสวยงาม" ของ Graph Candle Stick...

เจ้า Graph Candle Stick สามารถ สะท้อน ความรู้สึก & อารมณ์ ของ นักลงทุน ใน ตลาด ในเราเห็นได้ง่ายขึ้นกว่า การดูตัวเลข ราคาหุ้น ในตาราง..... เน้นอีกครั้งว่า ใช้เพื่อ "สะท้อน ความรู้สึก & อารมณ์ ของ นักลงทุน ใน ตลาด"

(สะท้อนยังไง เดียวจะอธิบายด้วย รูปภาพ... )

อมตะ วาจา.... ประโยคหนึ่งของ Warrant Buffet นักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ คือ "จงกล้าในขณะที่คนส่วนใหญ่กลัว และ จงกลัวในขณะที่คนส่วนใหญ่กล้า"....

เริ่มเห็นประโยชน์ ของ เจ้า Graph Candle Stick ไหมครับ....

Candle Stick หรือ กราฟแท่งเทียน ถูกเริ่มต้นใช้ โดย พ่อค้าชาวญี่ปุ่น ในการซื้อขายข้าว ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ตั้งแต่ ปี ค.ศ 1654 <---- จะบอกว่า มันถูกใช้งานมานานกว่า สามร้อยห้าสิบกว่า ปีมาแล้ว....


(จบแหละ จบห้วนๆ แบบนี้แหละ @^____^@ )

2554-03-20 @ บ้าน นนทบุรี


ขยายความ....

ในแต่ละช่วงเวลาที่เราต้องการพิจารณา เราต้องมี ข้อมูล 4 อันนี้จึงจะสามารถ เขียน กราฟแท่งเทียน แต่ละแท่งได้.... เพื่อดูอารมณ์ของตลาด ณ ช่วงเวลานั้นได้
    1) ราคาสูงสุด
    2) ราคาต่ำสุด
    3) ราคาเปิด
    4) ราคาปิด


 โครงสร้าง ของ กราฟแท่งเทียน แต่ละแท่ง....




















ราคาเปิดตลาด > ราคาปิดตลาด (ราคาหุ้นลดต่ำลง)....





















ราคาเปิดตลาด < ราคาปิดตลาด (ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น)....





















ราคาเปิดตลาด = ราคาปิดตลาด (ราคาหุ้นเท่าเดิม).... 


Candle Stick สะท้อน อารมณ์ คนใน ตลาด....


ตัวอย่าง.... รูปแบบ Hammer สะท้อนอารมณ์ตลาด... หุ้นตก ลงมาเรื่อย... วันล่าสุด... พวกที่ขายก็พยายามจะขาย แต่มีแรงรับซื้อ มารับไว้ จน ราคา ปิด สูงกว่า ราคาเปิด....  ----> เป็นสัญญาณว่า ราคาหุ้นตกลงมา ใกล้ ถึง จุดต่ำสุด แล้ว...    ใกล้ถึง จุดที่เราควรจะเข้าซื้อแล้ว      (Click ดูคำแนะนำดีๆ ในการซื้อขายหุ้น)

( หนึ่งในเงื่อนไข ของการเป็น รูปแบบ Hammer  ---->  ไม่มี Upper Shadow...., ความยาว Lower Shadow  มากกว่า ความยาว Body อย่างน้อย 2 เท่า..., Body เป็น สีเขียว หรือ สีแดง ก็ได้   (ยังมี รูปแบบอื่นๆ ที่เข้าข่ายเป็น รูปแบบ Hammer อีกน่ะ ลองไปหาๆ ดู <----- มาเขียนเกริ่นๆ กระตุ้นให้อยาก(เรียนรู้) แล้วก็จากไป.... :P  )

ตัวอย่าง จริงๆ....
โปรแกรม qtstalker Version 0.32 ทำงานบน UBunTu
ตัวอย่าง จริง ดู ราคาหุ้น STA ช่วงสัปดาห์ที่เกิด สึนามิ.... (STA ผลิต ยางแผ่นรมควัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของ อุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ ---> เกิดแผ่นดินไหว & สึนามิ @ ญี่ปุ่น ----> กระทบธุรกิจรถยนต์ ----> เปิดทำการวันแรก... ราคายางพารา ใน ตลาดซื้อขายล่วงหน้า Tocom ล่วงต่ำลง จนตลาดต้องใช้ Circuit Breaker -----> STA ราคาลดต่ำลง...

คำถาม คือ ราคาที่ลดลงเรื่อยๆ นี้ มันต่ำพอที่เราจะเข้าซื้อหรือยัง .... ต่ำแล้ว อาจจะต่ำได้อีก.... 
Candle Stick พอจะช่วย ตอบคำถามว่า   "ผู้คน ใน ตลาด มองว่า ราคามัน ต่ำแล้ว มากพอที่จะเข้าซื้อแล้ว หรือยัง" 

ป.ล #1 ระวัง!!!  ผม ไม่ได้บอกว่า ราคา ณ จุดนั้น มันเหมาะสม หรือไม่ ในแง่ ธุรกิจ ในแง่การลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI - Value Investor)   <------  อันนี้ต้องใช้ Fundamental Analysis วิเคราะห์ เอา.... วิเคราะห์เองไม่เป็น ก็ไปหาอ่านได้ใน SAA Consensus ใน Web Site : www.settrade.com ครับ


ป.ล #2 ใช้ หลักการของ ค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก มาประยุกต์ใช้ ----->  Parameter ตัวหนึ่งที่จะช่วยบอกเราว่า กราฟแท่งเทียน แท่งนั้น น่าเชื่อถือหรือไม่ ก็ คือ ปริมาณซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง (Volume)
                 - ปริมาณซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง   เยอะๆ  -----> น่าเชื่อ
                 - ปริมาณซื้อขายที่เกิดขึ้นจริง   น้อยๆ  -----> ไม่น่าเชื่อ
   

2554-04-19 @ บ้าน นนทบุรี 


ตัวอย่าง การตีความ อารมณ์ของตลาด จาก Candle Stick

ภาพ จาก รายการ หุ้นโค้งสุดท้าย ช่วง "ซื้อ - ขายเมื่อไหร่ ใช้สัญญาณเทคนิคช่วย"

แท่งซ้ายสุด ตลาดอารมณ์ดีสุด  แท่งถัดมาก็ อารมณ์ดี ลดน้อย ลงมา....
     แท่งซ้ายสุด ----> ราคาเปิด = ราคาต่ำ สุด แล้ว ราคาก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ   ทุกคนอยากได้ หุ้น แม้ว่า ราคาหุ้น จะสูงขึ้นไปเรื่อย.... จนกระทั่ง ราคาซื้อขาย สุดท้าย ตอนปิดตลาด คือ ราคาสูงสุด ของวันนั้น  

    แท่งถัดมาจาก แท่งซ้ายสุด ---->  หลังจาก ตลาดเปิด  มีนักลงทุนบางส่วนเทขาย (จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) ทำให้ ราคาตกลงมา แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ คิดว่า ราคาหุ้นมัน ควรค่าแก่การเข้าไปซื้อ .... จึงไล่ซื้อขึ้นไป....  จนกระทั่ง ราคาซื้อขาย สุดท้าย ตอนปิดตลาด คือ ราคาสูงสุด ของวันนั้น

   แท่งถัดมาอีก ----> หลังจาก ตลาดเปิด  ราคาขึ้นไป จนถึงราคาสูงสุด แล้วตกลง มาที่ ราคาปิด

   แท่งขวาสุด ----> ราคาผันผวน.... แต่ยังดีที่ สุดท้าย ราคาเปิด > ราคาปิด


ภาพ จาก รายการ หุ้นโค้งสุดท้าย ช่วง "ซื้อ - ขายเมื่อไหร่ ใช้สัญญาณเทคนิคช่วย"

แท่งด้านซ้าย อารมณ์ ดีกว่า แท่งด้านขวา





ภาพ จาก รายการ หุ้นโค้งสุดท้าย ช่วง "ซื้อ - ขายเมื่อไหร่ ใช้สัญญาณเทคนิคช่วย"
แท่งด้านซ้าย อารมณ์ ดีกว่า แท่งด้านขวา




ภาพ จาก รายการ หุ้นโค้งสุดท้าย ช่วง "ซื้อ - ขายเมื่อไหร่ ใช้สัญญาณเทคนิคช่วย"

ภาพ นี้ สุดยอด ของคำอธิบาย แล้วแหละ....  สำหรับ การตีความ อารมณ์ของตลาด ของ แท่งเทียนเดียวๆ....  (แต่ยังไม่จบ เท่านี้น่ะ....  ยังมีการนำ แท่งเทียน มากกว่า 1 แท่งมากประกอบกัน แต่ตีความหมายอีก น่ะ....)


2554-04-23 @ Wall Street  <--- สอนภาษาอังกฤษ (ไม่ใช่ ตลาดหุ้น NewYork น่ะ สถาบันสอนภาษาปะกิต.... ไม่ได้มาเรียน.... มานั่งรอแฟนเรียน ภาษาปะกิต )





รวม Link Web Site ที่สอนเรื่อง  Pattern ต่างๆ ของ Candle Stick






วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554

เก็บตก คำศัพท์.... (นักเล่นหุ้น)

Contrarian

 - ครั้งแรกที่ได้ยิน : 2554-04-16  จาก คุณ Densin Roy (เพื่อนใน FaceBook) ----> บอกว่า แนวคิด ของ คุณ พิชัย จาวลา ผู้เขียน หนังสือเศรษฐศาสตร์แห่งความจริง  นั้นเป็นของพวก contrarian

- Wiki แปล คำว่า Contrarian ไว้ดังนี้  ---->     In finance, a contrarian is one who attempts to profit by investing in a manner that differs from the conventional wisdom, when the consensus opinion appears to be wrong.

- Google Translate แปลที่ ข้อความที่ Wiki นิยามไว้ว่า ----> ในด้านการเงิน, contrarian คือคนที่พยายามที่จะกำไรโดยการลงทุนในลักษณะที่แตกต่างจากภูมิปัญญาดั้งเดิมเมื่อความคิดเห็นสอดคล้องดูเหมือนจะผิด

- สรุปว่า Contrarian น่าจะหมายถึง พวก 20% ใน ทฤษฎี 80/20 นั้นเอง... 

 

ทฤษฎี 80/20

    - คน 80% ครอบครอง ทรัพยากรโลก 20% และ คนที่เหลือ 20%  ครอบครอง ทรัพยากรโลก 80%

    - เราใช้เวลา 20% ทำงาน 80%  และใช้เวลาที่เหลือ 80% สำหรับทำงานที่เหลืออีก 20%

    - พนักงาน 20% ทำงาน 80% ของงานทั้งหมดในองค์กร และ พนักงานที่เหลือ 80% ทำงานที่เหลือ 20% ของงานในองค์กร

ทฤษฎี 80/20 ฟังดูเหมือนไม่ยุติธรรม.... แต่ผมเชื่อว่า 80/20  คือ จุดสมดุล ของ ธรรมชาติ

 

 

ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์แห่งความจริง

 - เขียนโดย พิชัย จาวลา

- สรุปเนื้อหาใจความได้ว่า

ใน ตลาดเก็งกำไร... ราคาจะเป็นไปในทิศทางที่ ทำให้ Mass (คนส่วนใหญ่) ขาดทุน เสมอ....  เพราะ ในตลาดเก็งกำไร คนส่วนใหญ่ (เราๆ ท่านๆ นี้แหละ...) เป็น ชนชั้นล่างสุดแล้ว.... เหนือพวกเราขึ้นไป ก็เป็น กองทุนทั้งหลาย, นักลงทุนต่างชาติ, คนระดับ Top People (เช่น George Soros)   

ชนชั้นเหนือเราขึ้นไป มีเงินลงทุน มากกว่าเรา เข้าถึง Information ได้มากกว่าเรา.... เป็นไปได้ไหมที่ พวกเราจะกำไร แล้ว ชนชั้นเหนือเราจะขาดทุน ???? 

กำไรที่ได้ จึงน่าจะมา จาก ชนชั้นล่างเช่นพวกเรานี้แหละ....  ชนชั้นล่างที่มีปริมาณมหาศาล.... ----> เรียกสั้นๆ ว่า Mass

แม้ว่า Mass จะตัดสินใจทำใน สิ่งที่สมเหตุ สมผล กับ สถานการณ์ ----> แต่ใน โลกของการเก็งกำไร  ราคาเป็นไปในทิศทางที่ทำให้ Mass ขาดทุนเสมอ.... 

เพราะ ฉะนั้น ถ้าอยากได้กำไร จงอย่าเป็น Mass

อ่านเต็มๆ ได้ที่ http://www.chiangmairoom.com/economic/

2554-04-18 @ โต๊ะทำงาน อาคาร Software Park


เมพขิงๆ

    - ได้ยินครั้งแรกนานมาแล้ว จาก เจ้าหมูหยอง น้องที่ทำงาน พูด แต่ไม่ได้สนใจว่า ความหมาย มันคือ อะไร .... เวลาต่อมา เริ่มพบเห็น ผู้คน ใช้คำนี้บ่อยขึ้นๆ โดยเฉพาะใน Internet ....   ตามหาความหมาย ของ เมพขิงๆ ใน Internet....

เมพขิงๆ มันเพี้ยนมาจาก คำว่า "เทพจิงๆ"   ซึ่งคำว่า "เทพจิงๆ" มันก็เพี้ยนมาจาก คำว่า "เทพจริงๆ"

เมพขิงๆ มันมาจาก พวกคนที่เล่นเกมส์ Online พิมพ์ผิด เพราะ ปุ่ม มันอยู่ใกล้กัน 

จะพิมพ์ "ท" แต่ไปกดปุ่ม "ม"   

จะพิมพ์ "จ" แต่ไปกดปุ่ม "ข"   

มันก็มีที่มา ที่ไปแบบนี้แหละ.... 

 ส่วนความหมาย เมพขิงๆ ----> ชื่นชม ยกย่อง ว่า เก่ง อะไรประมาณ นั้น....


2554-04-18 11:48 @ โต๊ะทำงาน อาคาร Software Park


Candle Stick Modified #2 : แท่งเทียน + ลูกชิ้นปิ้ง

ทดลองเอา Avg. ไปใส่ ใน Grap แท่งเทียน....



ดูรูปร่างหน้าตา นึกถึง ไม้เสียบลูกชิ้น....
ตั้งชื่อว่า Grap แท่งเทียน แบบ ลูกชิ้นปิ้ง.... แล้วกัน

2554-04-18 09:02 @ โต๊ะทำงาน อาคาร Software Park
(ทดลองเขียน Blog จาก ที่ทำงาน ----> ดูว่า โดน Block ไหม -----> สรุปว่า ไม่โดน Block )

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

Candle Stick Modified #1 : ก่อกำเนิด

จุดเริ่มต้น....
                  หลังจาก เข้าไป ดูๆ ดึงๆ ข้อมูลราคาหุ้นย้อนหลัง จาก www.settrade.com มานาน.... Field หนึ่งที่ไม่เคยใช้ประโยชน์เลย คือ ราคาเฉลี่ย....

                  ราคาเฉลี่ย มันก็มีประโยชน์น่ะ  มันช่วยแสดงถึง ราคาที่คนส่วนใหญ่ ซื้อ/ขาย เจ้า แต่จะเอามันมาใช้ยังไง....กับ Candle Stick....

                 Candle Stick มันมีเพียง  ราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด ก็เพียงพอแล้ว....


                 เริ่มต้นจากความคิดที่ว่า  "กราฟแท่งเทียน ของ ตลาดเก็งกำไร นั้น.... มันควรจะนำ ค่าเฉลี่ย มาแสดงด้วย เพราะ .... ค่าเฉลี่ยมันช่วยแสดงถึง ราคาที่คนส่วนใหญ่ ซื้อ/ขาย"



ยังไงฟ่ะ !!! ขยายความหน่อย....

ตัวอย่าง   

High = 7 บาท ซื้อขายกัน 10 หุ้น   ----> 70 บาท
Open = 5 บาท ซื้อขายกัน 100 หุ้น   ----> 500 บาท
Close= 5 บาท ซื้อขายกัน 100 หุ้น  ----> 500 บาท
Low = 3 บาท ซื้อขายกัน 1000 หุ้น  ----> 3000 บาท

ถ้าดูเป็น Candle Stick ปกติ จะเห็น มันเป็น กราฟแท่งเทียนรูป Doji... ---->  ขนาด ไส้เทียนด้านหัวยาว 2 บาท ,  ขนาด Body = 0, ขนาด ไส้เทียนด้านหาง 2 บาท ----->  ดูไม่ออกว่า อารมณ์คนในตลาดมัน Bull หรือ Bear


( Doji คือ ราคาเปิด = ราคาปิด )

ถ้าคำนวนค่าเฉลี่ย
Avg = (70+500+500+3000) / (10+100+100+1000) = 4070/1210 = 3.36

Avg อยู่ใกล้ Low มากกว่า ใกล้ High ----->  แสดงว่า คนส่วนใหญ่ Bear > Bull

เพราะ Candle Stick มันถูกใช้มานานกว่า 200 ปี .... สมัยนั้นคงไม่สะดวกในการคำนวนค่าเฉลี่ย....    เอาค่าเฉลี่ยใส่เข้าไปด้วย น่าจะช่วยให้ ตีความกราฟ ได้ตรงกับความเป็นจริงมากขึ้น....


แล้วจะเอา Avg. ไปใส่ใน Candle Stick ยังไง ฟ่ะ ?
     นั้นดิ ..... ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน.... ว่าจะเอาไปใส่ใน Graph ยังไง....  แต่ถ้าไม่ทำใน Grap ล่ะ.... ทำใน Text Mode นี้แหละ....

     ฤกษ์งามยามดี สงกรานต์ 2554 หยุดยาว 5 วัน.... เริ่มลงมือเขียนโปรแกรม..... บน UBunTu

โปรแกรม #1 : ไปดูด ข้อมูลราคาหุ้นย้อนหลัง มาจาก www.settrade.com มา Save เก็บไว้เป็น Text File
(เดียวภาคถัดไป จะเอาข้อมูลที่ดูดมา ไปใส่ลงใน DataBase : MySQL)
        - เขียนด้วย Bash Shell Script นี้แหละ....
        - พระเอกของงานนี้ คือ Command Line ชื่อ wget
        - ตัวอย่าง Text File ที่ได้จากโปรแกรม ----> Download ไปใช้ได้ฟรี  ได้ที่หน้า  ข้อมูล ราคาหุ้น ย้อนหลัง


 โปรแกรม #2 : เอาข้อมูล ราคาย้อนหลัง ที่ดูดมา  มาทำการวิเคราะห์
        - เริ่มต้นเขียนด้วย Bash Shell Scrip.... เขียนไปซักพัก Souce Code มันดูยุ่งๆ แค่เปรียบเทียบตัว เลขทศนิยม ใช้ มากมายหลายคำสั่ง..... ก่อนที่ Source Code จะยุ่งไปกว่านี้ เขียนเองยังเริ่มดูเองไม่รู้เรื่อง หนีไปเขียนด้วย ภาษา C  ดีกว่า...  สรุปว่า  บางส่วนใช้ Bash Shell Scrip บางส่วนใช้ C
                - ถ้าเข้าไปอ่าน http://tldp.org/LDP/abs/html/why-shell.html  :: When not to use shell scripts จะบอกว่า Bash Shell Script ไม่เหมาะกับงานประเภท heavy-duty math operations, especially floating point arithmetic (งานที่เน้นการคำนวน โดยเฉพาะการคำนวนเลขทศนิยม)











( Click ที่ภาพ เพื่อดู ภาพขยาย)

 Program ชื่อ : CandleStick1
 Parameter  : ชื่อหุ้น, จำนวนบรรทัดที่ต้องการดู


ผลลัพธ์บนจอ
     ชื่อหุ้น:วัน/เดือน/ปี:Reserved:ราคา: รูปร่างหน้าตาแท่งเทียน xxx-yyy-zzz : Volume : ราคาปิดที่เปลี่ยนแปลง

          - เจ้า xxx-yyy-zzz คือ ขนาดของไส้เทียนด้านบน-ขนาดของลำตัว-ขนาดของไส้เทียนด้านล่าง
          - Volume จะคิดเป็น % เทียบกับ Volume มากที่สุดที่พบใน ฐานข้อมูล
 
          - บรรทัด สีแดง ----> ราคาเปิด > ราคาปิด
          - บรรทัด สีเขียว ----> ราคาเปิด < ราคาปิด
 


แล้วไง ต่อ !!!!
           วาดฝันต่อไปว่า เดียวจะ Portable ทั้งหมดไปทำงาน บน Web.... ทำเป็น GUI ใช้ TA-Lib ..... ทำ Technical Analysis กันผ่าน Web เลย  อะไร ประมาณนั้น..... เปิดให้ใช้กันฟรีๆ.....  ตอนนี้เขียนเล่นๆ หา Concept ก่อน....
    - TA-Lib ----> Web Site : http://ta-lib.org/

           จบแหละ (ภาค 1) .....


ป.ล. ใครจะเอา Idea ไปทำต่อ  ก็ไม่ว่ากันน่ะครับ  เชิญตามสบาย....         @^____^@
2554-02-17 23:13 @ บ้าน นนทบุรี

ผู้ติดตาม

เกี่ยวกับฉัน

เพราะ ชีวิต คือ การลองผิด ลองถูก อย่างมี สติ + สัมปชัญญะ.... Trial & Error